‘กล่องสุ่ม’ หรือ ‘Mysterious Box’ เทรนด์การตลาดที่กำลังมาเเรง และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรูปแบบการขายที่ผู้ขายจะใส่สินค้าต่างๆ ไว้ในกล่อง โดยสินค้ามีทั้งแบบแบ่งเป็นหมวดหมู่และแบบคละสินค้า ผู้ซื้อไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่าในกล่องมีอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้าได้ลุ้นว่าสินค้าที่จะได้เป็นอะไร โดยที่ข้างในอาจจะมีสินค้าแบรนด์แนม สิ่งของที่มูลค่ามากกว่าหรืออาจจะน้อยกว่าที่จ่ายเงินซื้อไป
สำหรับการตลาดกล่องสุ่ม เพิ่งเข้ามาในฮิตในประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่นิยมมากๆ ในแดนปลาดิบ ประเทศญี่ปุ่น โดยราคากล่องสุ่มก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสน ซึ่งสินค้าที่นิยมนำมาลงกล่องสุ่ม เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของเล่น เครื่องสำอาง และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
ขายยังไงให้ปัง สร้างออเดอร์รัวๆ
1. สร้างความตื่นเต้น : ความคาดหวังแรกที่ทำให้คนยอมควักกระเป๋าซื้อของที่ไม่รู้ว่าจะได้อะไร คือความตื่นเต้น ดังนั้นในฐานะของคนทำกล่องสุ่ม การเตรียมสินค้าให้ใกล้เคียงกับความคาดหวังของลูกค้าเป็นเรื่องแรกๆ ที่ต้องคิดถึงอยู่เสมอ จะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกลุ้นไปกับของที่ได้ เช่น แทรกรางวัลใหญ่เข้าไปในบางกล่อง เพื่อช่วยกระตุ้นให้อยากลุ้นมากขึ้นไปอีก
2. สร้างความคุ้มค่า : อีกสิ่งที่ผู้ขายควรให้ความสำคัญมากๆ คือเรื่องต้นทุนของสินค้าที่จะใส่เข้าไปในกล่องสุ่ม ว่ามีส่วนต่างของต้นทุนกับราคาอยู่ในระดับที่ยังได้กำไรตามเป้าหมาย ซึ่งโฆษณาขายกล่องสุ่ม สิ่งแรกที่มักจะถูกพูดถึงคือเรื่องราคา ที่สื่อถึงความคุ้มค่ากับการลุ้น เช่น จ่ายเพียง 899 บาท สามารถลุ้นของที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 บาท แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะเลือกสินค้าที่มีดูคุ้มค่าเกินราคา เพื่อไม่ทำให้ลูกค้าที่กำลังตั้งตารอผิดหวังในเวลาเดียวกันหากคุณภาพสินค้าไม่สอดคล้องกับราคา หรือทำให้ผิดหวังเอามากๆ นั่นก็อาจจะเป็นกระแสตีกลับได้ง่ายๆ ที่มีตัวอย่างดรามากันมามักต่อนักต่อนักเช่นกัน
3. สร้างจุดเด่นให้น่าอวด : ในยุคดิจิทัล นอกจากลูกค้าจะต้องการแค่ลุ้นว่าตัวเองจะได้สินค้าอะไรแล้ว และหน้าตาของกล่องสุ่มต้องมีดีไซน์น่าสนใจ หรือน่าซื้อฝากให้คนที่รักได้ร่วมลุ้นด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยดันยอดขายต่อไปได้ นอกจากนี้ การซื้อเพื่อแสดงถึงรสนิยมการเข้าเทรนด์ ก็เข้ามามีส่วนกระตุ้นให้อยากซื้อกล่องสุ่มมาเปิดได้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อคิดจะทำกล่องสุ่มแล้ว อย่าลืมคิดว่าทำอย่างให้ลูกค้ารู้สึกอยากโชว์กล่องสุ่มเข้าไปด้วย แน่นอนว่าถ้าทำได้ดีตรงใจลูกค้า ร้านค้าจะได้พื้นที่โฆษณาที่ดีที่สุด แบบไม่ต้องลงทุนค่าประสัมพันธ์แม้แต่น้อย
ดังนั้นกล่องสุ่มทุกกล่องควรมีมาตรฐานที่มั่นใจได้ว่าเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าแล้วจะพอใจอย่างแน่นอน และของที่ได้มีความคุ้มค่าตามมูลค่าที่ลูกค้าจ่าย รวมถึงการทำข้อมูลราคาสินค้าเตรียมเอาไว้เผื่อในกรณีที่ลูกค้าถามถึงความคุ้มค่า ก็จะช่วยลดการเกิดปัญหาระหว่างลูกค้าได้มากเช่นกัน
แหล่งอ้างอิง :