![](https://www.mkddigitalmarketing.com/wp-content/uploads/2022/01/Blog-ideas-Facebook-Post-3-1024x1024.png)
คอนเทนต์หรืองานเขียนถือเป็น “Body” หรือแกนหลักของการทำ SEO เพราะคอนเทนต์คือสิ่งที่ผู้เสิร์ชมองหา และงานเขียนคือคำตอบที่เว็บไซต์จะมอบให้กับพวกเขา
คำถามคือ เราจะเขียนบทความอย่างไร ให้ถูกหลัก SEO เพื่อให้บทความปรากฏบนอันดับต้นๆของผลการค้นหา
บทความ SEO (SEO Content) คืออะไร
บทความ SEO (SEO Content) คือ บทความที่ถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับ search engine algorithm ทำให้ search engine เข้าใจง่ายว่า บทความเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร จึงส่งผลให้มีโอกาสติดอันดับดีๆ ในผลการค้นหา และมียอดผู้ชมเว็บไซต์ (Traffic) มากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินโปรโมตอะไรมาก
SEO เกี่ยวข้องอย่างไรกับนักเขียน
บทความถูกหลัก SEO นั้น ต้องเริ่มจากนักเขียนเป็นคนช่วยทำ จะมองว่าเป็นเรื่องของนักการตลาดอย่างเดียวไม่ได้ (เพราะนักการตลาดอาจรู้เรื่อง SEO แต่อาจจะเขียนออกมาไม่ได้อย่างนักเขียน)
อยากเริ่มต้นเขียนบทความ SEO แล้ว ต้องรู้อะไรบ้าง?
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียนหรือเป็นคนที่ปลูกปั้นทำเว็บไซต์ทำบล็อกของตัวเอง เทคนิคการเขียนบทความ SEO ต่อไปนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณทะยานไต่อันดับไปอยู่หน้าแรกๆ ได้แน่นอน
เทคนิคเขียนบทความ SEO (SEO Content) ให้ติดอันดับเป็นอมตะบน Google
1. ทุกๆ บทความต้องมี Keyword
Keyword คือ ‘คำสำคัญ’ หรือ ‘วลีสำคัญ’ ที่เราอยากให้คนเสิร์ชเจอด้วยวลีนี้
เมื่อก่อนเวลาจะเขียน บทความเราอาจคิดแค่ชื่อเรื่อง โครงเรื่อง และเล่าเรื่องไปตามนั้น แต่เมื่อมาเขียนบทความออนไลน์ เราควรตั้งต้นว่าเขียนเพื่อใคร แล้วเรื่องที่เราจะเขียน เขาจะค้นหาด้วย Keyword อะไร
2. ใส่ Keyword เพื่อให้ Search เจอง่าย
เมื่อทราบ Keyword แล้ว สิ่งต่อมาคือ รู้เทคนิคใส่ Keyword เพื่อให้ Search เจอง่าย โดย Google จะให้ความสำคัญกับเนื้อหาแต่ละส่วนไม่เท่ากัน ถ้าอยากบอก Google ว่า นี่เป็นวลีสำคัญนะ ก็ให้ใส่ Keyword เข้าไปในจุดสำคัญทั้ง 5 ตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
2.1 Title หรือ ชื่อบทความ
2.2 URL ชื่อลิงก์ของบทความ (เรียกอีกอย่างว่า Slug)
2.3 Description หรือ คำบรรยายบทความ
2.4 Headings หรือ หัวข้อต่างๆ
2.5 ชื่อภาพ และ Alt Text ของภาพ
3. ปริมาณและการกระจายตัวอย่างเป็นธรรมชาติของ Keyword
แน่นอนว่าคีย์เวิร์ดไม่ได้ใส่ลงไปในจุดยุทธศาสตร์ทั้งห้าอย่างเดียว แต่ควรมีเขียนถึงในเนื้อบทความบ้าง
เราใช้คำว่า “บ้าง” แปลว่า ไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะ Google จะมองว่าเราพยายามใส่มากเกินไป คำแนะนำส่วนใหญ่บอกว่า Keyword density ไม่ควรเกิน 2.5% ซึ่ง Keyword density หมายถึง สัดส่วนของคีย์เวิร์ดเมื่อเทียบกับปริมาณ Text ทั้งหมดในบทความ
คำแนะนำคือ ถ้าเป็นไปได้ เราควรใส่คีย์เวิร์ดในประโยคแรกของบทความ จากนั้นคือให้กระจายหลวมๆ ทั่วทั้งบทความ
ใน WordPress วิธีดู Keyword density ก็สามารถใช้ SEO plugin อย่าง Yoast SEO ตรวจสอบได้เช่นกัน
4. เขียนบทความคุณภาพ คือ การทำ SEO ที่ดีที่สุด
Search Engine ระดับโลกย่อมต้องการให้ผลลัพธ์การค้นหาของตนถูกใจผู้ใช้ผู้อ่าน นั่นหมายความว่าระบบจะต้องอยากนำเสนอคอนเทนต์ที่เขาคิดว่ามีคุณภาพ
แล้ว Google รู้ได้ยังไง ว่าบทความไหนมีคุณภาพ?
มีหลายเรื่องให้มองมาก แต่ขอยกตัวอย่างมา 3 ปัจจัยพื้นฐาน ดังนี้
- ความยาวของบทความ
- บทความสดใหม่ (Original Content)
- ยอด Engagement บน Social Media
5. ความสม่ำเสมอและคอยอัปเดตคอนเทนต์
บทความที่ตั้งใจเขียน เช็คแล้วเช็คอีกว่าดีกับ SEO หรือเปล่า อาจไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวัง เพราะขาด ‘ความสม่ำเสมอ’
เพราะกว่าเว็บไซต์จะเติบโต มี Authority สูงๆ ได้รับการยอมรับจาก Google ก็ต้องใช้เวลาสะสมประสบการณ์
ในสายตาของ Search Engine อย่าง Google คอนเทนต์ที่ลงบนเว็บอย่างสม่ำเสมอ หมายถึง เว็บไซต์ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เป็นเว็บไซต์ที่เติบโตอยู่เรื่อย เพราะมีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ (การแชร์ไปบนโซเชียลมีเดียจะช่วยให้ได้คนเข้ามายังเว็บไซต์ทันที ไม่ต้องรอ Google จัดอันดับ)
นอกจากนี้ ถ้าทำคอนเทนต์เผยแพร่ได้แล้ว จะนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องคอยเช็คอันดับเว็บไซต์ วิเคราะห์เว็บคู่แข่ง และอัปเดตคอนเทนต์ของเราให้ดีกว่า –ในสายตาของ Google คอนเทนต์ใหม่หรือคอนเทนต์ที่อัปเดตจะน่าเชื่อถือกว่าด้วย เพราะมองว่าข้อมูลจะเป็นปัจจุบันที่สุด
ที่มา : Contentshifu.com